วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

สถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลี


กรุงโซล  พานั่งรถชมใจกลางเมืองหลวง ผ่านซิตี้ฮอล์ ประตูเมืองคังฮวามุน พระราชวังด๊อกสุ ตึกเคียวโบ-ขายหนังสือที่ใหญ่
สุดในประเทศ  สถานีรถไฟกรุงโซล  ศูนย์วัฒนธรรมเซจอง




คลองชงเกชอน (Cheonggyecheon)   นั่งรถไปบริเวณชองเกชอนถูกขุดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อราว 600 ปีก่อนในสมัยของกษัตริย์ YEONGJO กษัตริย์องค์ที่ 21 แห่งราชวงศ์โชซอน ชองเกชอนเป็นสัญลักษณ์ของการผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัวของธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ 

ประวัติคลองชองเกชอนก่อนทศวรรษที่ 1960 กษัตริย์ยองโจ (กษัตริย์ องค์ที่ 21 ของราชวงศ์โชซอน) ได้รับสั่งให้ดำเนินการขุดคลองชองเกชอนถือได้ว่าเป็นงานใหญ่ ใช้คนงานประมาณ 200,000คน เพื่อปรับพื้นที่ให้กระแสน้ำไหลเป็นทางตรง ภายหลังสงครามเกาหลี พื้นที่ริมคลองได้กลายสภาพไปเป็นชุมชนแออัด น้ำเน่าเสีย สิ่งแวดล้อมโดนทำลายผู้คนก็อาศัยอยู่ไปวัน ๆ ไร้อนาคต

ช่วงทศวรรษ 1960 และ 70   
มีความพยายามที่จะล้างพื้นที่สลัม และปรับปรุงสุขอนามัย จึงได้ปิดคลองตั้งแต่สะพานควางเกียว ไปถึงสะพานโอกันซูเกียว ในทงแดมุน บริษัทห้างร้านต่าง ๆเกิดขึ้น ถนนแออัดมากขึ้น จึงได้มีการสร้างทางด่วนยกระดับขึ้นเหนือถนนที่เกิดจากการปิดคลอง ผลที่ตามมาคือ มีสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่และสิงอำนวยความสะดวกทางธุรกิจเกิดขึ้นมากมาย


ช่วงทศวรรษ 1980 และ90
 พื้นที่แถบนี้ยังคงเจริญอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าเป็น ศูนย์การค้ากรุงโซล จนเวลาผ่านไปโครงสร้างถนนก็ผุผัง เนื่องจากฝุ่นละอองและควันพิษ  กลายเป็นปัญหาความปลอดภัยของสาธารณะ ปี 2005 เพื่อให้กรุงโซลกลายเป็นเมืองที่น่าอยู่น่าอาศัยสำหลับศตวรรษที่ 21 จึงได้เกิดโครงการฟื้นฟูคลองชองเกชอนจนวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2005 คลองสะอาด น้ำสีฟ้าใส การฟื้นฟูคลองชองเกชอนครั้งนี้ถือเป็นการก้าวที่น่าจดจำในการทำให้กรุงโซล กลายเป็นเมืองที่มีความสมดุลระหว่าง ธรรมชาติ วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์

สถานที่ที่น่าสนใจบริเวณคลองชงเกชอน
 ตามเส้นทางคลองชองเกชอนมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายคุณจะได้เห็นธรรมชาติกลางเมือง และสัมผัสกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเกาหลี




1.ชองเก พลาซ่า
จุดเริ่มของคลองชองเกชอนน้ำพุที่ประดับประดา ไปด้วยไฟสามสี น้ำพุดอกไม้ไห และน้ำพุสองชั้น ที่ในแต่ละวันต้องปั้มน้ำ 65,000ตัน ที่ก้นคลองสว่างเรือง ๆด้วยไฟอ่อน ช่วยสร้างบรรยากาศที่สงบ และเยือกเย็น


2.สะพานควังทงเกียว
 สะพานควังทงเกียวเคยเป็นสะพานที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ถูกสร้างขึ้นในปีที่ 10  แห่งการครองราชย์ของกษัตริย์ แทจง (กษัตริย์คนที่ 3ของโชซอน) ใช้เป็นถนนหลวงสำหรับเชื้อพระวงศ์และชนชั้นขุนนาง สะพานนี้ได้อยู่ในโครงการฟื้นฟูคลองชองเกชอน ซึ่งได้รับการบูรณะแล้ว ยังถูกย้ายที่ตั้งให้ขึ้นไปทางต้นน้ำประมาณ 150 ม.จากที่ตำแหน่งเดิม



3.บันชาโด ภาพวาดขวบแห่ของกษัตริย์ชองโจ
 บันชาโดเป็นภาพวาดบนกำแพงเซรามิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประดับที่เขื่อนซ้ายของคลองชองเกชอนตรงช่วงระหว่างสะพานควางเกียว บันชาโดที่เป็นของดั้งเดิมนั้นเป็นภาพวาดแสดงการเยี่ยมสุสานของพระราชบิดา และพระราชมารกาของกษัตริย์ชองโจ เป็นเวลา 8 วันจากภาพดั้งเดิมนี้ได้ถูกนำมาวาดใหม่ บนกำแพงยาว 192 ม. ซึ่งมีข้าราชบริพาร 1,779 คน และม้าอีก 779 ตัว ผู้ชมจะได้เห็นทุกรายละเอียดของแบบแผน เครื่องแต่งกายรูปแบบในสมัยนั้น และขนาดของขบวนแห่


4.กำแพงวัฒนธรรม และกำแพงแซกดง(กำแพงสายรุ้ง)
กำแพงวัฒนธรรมตั้งอยู่ที่ต้นคลองใกล้กับประตูโอกันซูมุน ประมาณครึ่งกำแพงในน้ำแสดงผลงานของศิลปินร่วมสมัยห้าคนภายใต้แนวคิด “ทางสู่อนาคต”รวมไปถึงกำแพงแซกดงที่แสดงสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของเกาหลี ซึ่งทำให้คลองชองเกชอนเป็นบริเวณที่จะได้ชื่นชมศิลปะ

5.สถานที่ตั้งประตูโอกันซูมุน
 ประตูโอกันซูมุนแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างประตูฮึนอินจิมุน และประตูควางฮวามุน ถูกสร้างขึ้นในช่วงการสร้างเมืองหลวงในสมัยต้นราชวงศ์โชซอนนักท่องเทียวจะ ได้เห็นภาพถ่ายของประตูระบายน้ำฟ้าช่องซึ่งมีน้ำไหลออกจากเมืองโดยตลอด และแบบจำลองที่เป็นสัญลักษณ์ของประตู ถัดจากประตูระบายน้ำคือสะพานโอกันซูเกียว ที่มีพระราชหัตถเลขาของกษัตริย์ยงโจจารึกอยู่ที่กินด้านล่างสะพาน ซึ่งแสดงให้เห็นการทำงานขุดคลองของเหล่าข้าราชบริพาร และมีโครงภาษาจีนสดุดีความสำเร็จของกษัตริย์เป็นตัวอักษรจีนพร้อมคำแปลภาษา เกาหลีอยู่ด้วย
6.บริเวณที่ใช้ซักผ้าในยุคโบราณ
ความสำคัญของพื้นที่บริเวณนี้คือ ครั้งหนึ่งเป็นที่สำหรับให้ผู้หญิงมาซักผ้า เป็นพื้นที่ระหว่างสะพานดาซานเกียวและสะพานยองโดเกียวแม่บ้านในกรุงโซลชอบ ที่จะมาซักผ้ากันที่นี่แม้แต่ในฤดูหนาว เพราะว่าที่นี่มีแดดตลอด ปัจจุบันห้ามไม่ให้มีการซักผ้าที่คลองแล้ว แต่ก็มีการจัดพื้นที่โดยนำแผ่นหินเอียงที่เคยใช้ซักผ้ามาจัดวาง




7.กำแพงแห่งความหวัง
 กำแพงแห่งความหวังตั้งอยู่ระหว่างมณฑลชองเกชอน 8-กา และ 9-กา ดูสวยงานทั้งสองฝั่งของคลองเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความเสียใจต่อการแบ่งแยก เกาหลีเหนือและใต้ ถูกสร้างจากแผ่นกระเบื้องโดยชาวกรุงโซล ชาวเกาหลีเหนือ และชาวเกาหลีในต่างแดน รวมกว่า 20,000 คน เพื่อเป็นความหวังของความเป็นปึกแผ่นที่จะรวมชาติกันอีกครั้ง  ตัวกำแพงยาว 50 ม. ทั้งสองด้าน และสูง 2.2 ม. ถือเป็นกำแพงที่ทำจากกระเบื้องเซรามิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก
8.กำแพงน้ำตกเป็นจังหวะ
 กำแพงหินอ่อนสูง 5 ม. และยาว 20 ม. มีน้ำไหลตกลงมา พื้นผิวของกำแพงตกแต่งด้วยหินรูปวงรีสีดำ ดูเหมือนปลากำลังวายทวนน้ำขึ้นไป ในตอนกลางคืนกำแพงจะถูกเติมสีสันด้วยแสงไฟทำให้ดูเหมือนน้ำกำลังตกลงมาเป็น จังหวะดนตรี
9.น้ำพุอุโมงค์
 กำแพงขนาดความสูง 5 ม. ยาว 50 ม.  มีท่อพ่นน้ำจำนวน 42 ท่อ พ่นน้ำออกมาเป็นรูปพาราโบล่าเหนือทางเดิน เกิดเป็นลักษณะของอุโมงค์น้ำ ตอนกลางคืนมีแสงไฟหลากสีช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูลึกลับ
10.ท่าเรือจนชิ
 ระหว่างสะพานบิอูดังเกียวและสะพานมูฮักเกียว มีท่าเรืออยู่สามแห่ง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกใช้สำหรับการเดินทางข้ามคลอง ปัจจุบันกกลายเป็นเครื่องเตือนให้ระลึกถึงขอบเขตของคลองข้างทางสัญจร และยังเป็นสัญลักษณ์ของโครงการบูรณะคลองซองเกซอนนี้


พระราชวังเคียงบก บลูเฮาส์  ย้อนละคร “ KOONG – Princess Hours “ ณ พระราชวังเคียงบก สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1394  

สมัยราชวงศ์โซซอน เป็นศูนย์บัญชาการและที่ประทับของกษัตริย์   เมื่อสมัย 600 ปีก่อน ถือเป็นจุดที่ตั้งตามหลักฮวงจุ้ยที่ดี

ที่สุด ภายในพระราชวังประกอบไปด้วยพระที่นั่งต่าง ๆ มากมาย เช่น พลับพลากลางน้ำ ห้องประทับของกษัตริย์และพระราชินี

ห้องทรงพระอักษร ท้องพระโรง สวนกลางแจ้ง เป็นต้น นั่งรถผ่านถนนสายสำคัญที่มีการเปิดปิดเป็นเวลา-สถานที่ตั้งทำเนียบ

และบลูเฮาท์หรือบ้านประจำตำแหน่ง






หอคอยกรุงโซล+Teddy Bear พาย้อนรอยละครดัง  “ Witch You Hee “   “ Kim Sang Soon “  “ Boys Over Flowers

หรือ F4 เกาหลี “ ณ เขานัมซาน-ภูเขาเพียงลูกเดียวใจกลางเมืองหลวง  พาท่านขึ้นลิฟท์สู่หอคอย N กรุงโซล 1 ใน 17

หอคอยเมืองที่สูงที่สุดในโลก  สูงถึง 480 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ณ เขานัมซานใจกลางเมืองหลวง ชมทัศนียภาพกรุงโซ

ลและชานเมืองแบบรอบทิศ 360 องศา  พร้อมชมความน่ารักของ The Teddy Bear Museum ที่ผูกเรื่องราวและเหตุการณ์

ครั้งสำคัญสำคัญทางประวัติศาสตร์ของราชวงศ์สุดท้ายเกาหลี วัฒนธรรมต่างๆ ของชาวเกาหลี รวมทั้งความทรงจำของอดีต

จนถึงปัจจุบันของเมืองหลวงกรุงโซลได้อย่างน่ารักและน่าชมยิ่งนักของเจ้าหมีเกาหลีตัวน้อยน้อยทั้งหลาย และท่านยัง

สามารถเลือกซื้อตุ๊กตาหมี Alfred ของละคร “ เจ้าหญิงวุ่นว่าย เจ้าชายเย็นชา “ หรือ แบบอื่นๆ เพื่อการสะสมได้อีกด้วย  (

ความเชื่อ:  ล๊อกแม่กุญแจคู่รักเพื่อความรักที่ยืนยง ณ เขานัมซาน)


ศูนย์โสมเกาหลี  พาท่านรู้จักและเข้าใจสมุนไพรโสมเกาหลีหรือราชาแห่งมวลสมุนไพรโสมใช้เป็นยารักษาสุขภาพของชน

ชาติตะวันออกมาตั้งแต่อดีตกาล  และเร็ว ๆ นี้ โสมเกาหลีอาจจะได้จดทะเบียนมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก  ทุกวันนี้

ผลิตภัณฑ์รากโสมอบน้ำผึ้ง ผงโสมยอดนิยม โสมสกัดแคปซูล หรือโสมสกัดเข้มข้น เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับของขวัญของ

ฝากสำหรับผู้ที่คำนึงถึงสุขภาพ



ย่านฮิปแฟชั่นเมียงดอง + สปาเท้ากับDr. Fish  พาท่านชมร้านDr. Fish  เทรนฮิต ! พาท่านจิปกาแฟหรือชาอุ่นๆ พร้อมขนม
ปัง คุ้กกี้ หรือของว่าง อ่านหนังสืออัพเดรดเทรน เล่นเน็ต ชมหนุ่มสาวกิมจิ  พร้อมสปาเท้าในอ่างกับ Dr. fish (การใช้ปลาตัว
เล็กๆ ตอดทำความสะอาดเท้า โดยปลาจะกินผิวหนังที่เสื่อมสภาพซึ่งขณะนี้มีเพียงไม่กี่แห่งในโลก)  เลือกซื้อสินค้าแฟชั่น
เกาหลีสุดฮิบอินเทรน  และตามแฟชั่นฮิปอินเทรนที่เมียงดอง ถูกขนานนามว่า "ถนนแฟชั่นของเกาหลี"  สินค้าและบริการมี
ราคาระดับกลางถึงสูงตามแต่ยี่ห้อเมื่อเทียบกับตลาดพื้นเมืองทงแดมุน และมีห้างบูติกต่าง ๆ มากมาย และยังมีร้านเสื้อผ้า
แฟชั่นบูติกเล็ก ๆ  ร้านรองเท้า ร้านทำผม ร้านคอสเมติกแนววัยรุ่น นิยม (Etude, The Face Shop, Skin Food, Hanskin
เป็นต้น) ร้านกาแฟ โรงหนัง และร้านอาหารย่านแอนติก อินซาดอง  ได้ชื่อว่า  " ถนนแห่งแอนติค "  ชาวต่างชาติที่พำนักใน
กรุงโซลให้ฉายาว่า “ แมรี่แอลลี่ “ หรือ ตรอกแมรี่ ท่านจะค้นพบความเก่าแก่ที่ผสมอารยธรรมสมัยใหม่ในเมืองหลวง ย้อน
รอยหนังดัง “ Insadaon Scandal “ ร้านแกลอรี่ ร้านศิลปะพื้นเมือง ร้านขายวัตถุโบราณ  ร้านอาหารพื้นเมืองที่เลื่องชื่อ  ร้าน
ชาพื้นเมือง โบราณที่มีชื่อเสียง  ร้านสะสมแสตมป์  ร้านเซรามิค  ร้านไอศรีม Red Mango และโพจังมาซาเกาหลี 

แอมมาทีส พาชมโรงงานเจียระไนพลอยแอมมาทีส  แดนเกาหลีเป็นแดนของพลอยสีม่วง โดยมีสีสันและการกำเนิดที่แตก
ต่างจากที่อื่น โดยมีตั้งแต่สีม่วงอ่อนเย็นตาจนถึงสีม่วงไวน์ มีเสน่ห์เย้ายวนใจ ชาวเกาหลีเชื่อว่าแอมมาทีสเกาหลึ คือ พลอย
แห่งสุขภาพพลอยแห่งความมั่งคั่งหรือนำโชค (ตามราชวงศ์โซซอน)  พลอยนี้จะงามจับตาเมื่อมาทำเป็นแหวน จึ้ ต่างหู
และสร้อยข้อมือ


ย่านหรูอัพคูจองดอง  หากคุณอยากรู้เทรนแฟชั่นทั้งของกินของใช้ก่อนใครในเกาหลี  !  พาท่านไปยังย่านสุดอินเทรนแฟชั่น
เกาหลียุโรป  Apgujeong Rodeo Street แหล่งรวมร้านค้าสินค้าแบรนด์เนมต่างประเทศชั้นนำเกือบทุกเบรน  นอกจากนี้ยัง
เป็นแหล่งรวมร้านเทรนดี้เกาหลีต่าง ๆ รวมถึง ร้านค้าดังดังของชาวเกาหลีไฮโซ อาหารดังจากนานาชาติ รวมถึงของทานเล่น
ต่าง ๆ กาแฟคอฟฟี่ช้อป เค็กเบเกอร์รี่ เป็นต้น และยังมีห้างสรรพสินค้า  The Galleria (คล้ายห้างเอ็มโพเรียมและเกสรพลา
ซ่าของกรุงเทพฯ)


สถานที่ถ่ายละครดัง Winter Love Song  เกาะนามิ   สถานที่ยอดนิยมทัวร์เที่ยวเกาหลี เดินทางขึ้นเรือเฟอรรี่ข้ามฟากไป

ยังเกาะนามิ สถานที่โรแมนติคอีกแห่งหนึ่งสำหรับคู่รักคู่หนุ่มสาว ครอบครัว เพื่อน ๆ หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำละครเกาหลี 

Winter Love Song หรือ เพลงรักในสายลมหนาว 

เกาะนามิมีรูปร่างเหมือนใบไม้ที่ลอยอยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำฮัน ณ ที่แห่งนี้ ท่านสามารถเช่าจักรยานหรือ

มอเตอร์ไบท์เที่ยวรอบเกาะ เดินเล่นชมสวนเกาหลี คาราวะสุสานนายพลนามิ  เดินผ่านกลางแมกไม้แห่งสวนสนที่สูงเสียดฟ้า

เพื่อสุขภาพ ผ่านดงต้นสน ดอกสน ต้นเกาลัด เลือกนั่งที่ม้านั่งข้างชายฝั่งเพื่อชมบรรยากาศโรแมนติกใต้เงาไม้ มองดูพันธุ์

สัตว์ต่าง ๆ เช่น นกกระจอกเทศ กระต่าย กระรอก เป็ด กวาง ได้เวลาสมควร นั่งเรือกลับมายังฝั่ง 


สวนในฝันฟาร์มเฮิบนารา   เที่ยวหุบเขาฮีนจอง ย้อนเวลาสู่โลกของจิตนาการและเทพนิยายฝรั่ง ณ ฟาร์มเฮิบนารา รวมถึง

เป็นแหล่งสร้างตำนานนิยายชื่อดังเกาหลี “ When the Buckwheat Flower Blossom “ อิสระให้ท่านเดินท่านเดินเล่นและ

พักผ่อนกับธรรมชาติของสวนดอกไม้สมุนไพรในรูปแบบต่าง ๆ เช่น สวน Shakespeare สวน Monet สวน เด็กเล่น  เลือกจิบ

เครื่องดื่มสมุนไพรดอกไม้ชนิดต่าง ๆ เค้กสมุนไพรที่ร้านกาแฟ มุมริมธารน้ำใส  แกลลอรี่ที่บอกเรื่องราวของดอกไม้เพื่อ

สุขภาพ เข้าเยี่ยมชมและเลือกซื้อสินคาหรือบริการที่ร้านต่าง ๆ  เช่น  ร้านขายสินค้าแปรรูป ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร

ร้านขายดอกไม้ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากความฝันและงานอดิเรกของผู้หญิงแม่บ้านที่รักในงานศิลปะและการปลูกต้นไม้

โดยมีสามีเป็นผู้ให้การสนับสนุน การมาเยือนครั้งนี้จะเป็นความทรงจำอันงดงามสำหรับทุกคนที่มีรัก



วนอุทยานแห่งชาติโซรัคซาน  ควังคึมซองเคเบิ้ลคาร์  เดินทางไปพักผ่อนแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง เพลิดเพลินกับดินแดน
ที่ปกคลุมด้วยป่าทึบ ซึ่งมีความงดงามของทิวทัศน์ของบริเวณที่มีผู้คนอาศัยอยู่น้อยกว่าจังหวัดอื่นๆ มีทิวทัศน์ที่มีความ
งามอย่างมหัศจรรย์ของภูเขาที่ปกคลุมด้วยป่าไม้สุดลูกหูลูกตา หุบเขาและเมืองเล็กๆ ชายฝั่ง  เข้าสู่วนอุทยานแห่งชาติโซ
รัคซาน ถ่ายรูปคู่กับอนุสาวรีย์หมีเสี้ยวพระจันทร์  ชมความงามของเขาโซรัค ความงามของวนอุทยานแห่งชาติที่ได้ขึ้นชื่อว่า
เป็นภูเขาสี่ฤดู เขาโซรัคหรือภูเขาหิมะตั้งอยู่ใจกลางภูเขาแทแบคซึ่งทอดยาวไปถึงเขาคึมคังของประเทศเกาหลีเหนือมีเทือก
เขา ป่าไม้  หุบเขา สายน้ำ ทะเลสาบ หินรูปร่างต่าง ๆ ที่สวยงามซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่หาดูธรรมชาติที่หาดูได้ยากยิ่ง
พร้อมนมัสการพระพุทธรูปปรางสมาธิองค์มหึมาตั้งอยู่กลางแจ้งสร้างขึ้นเพื่อสวดอ้อนวอนให้คาบสมุทรเกาหลีได้รวมเป็นหนึ่ง
เดียวกัน และเดินข้ามสะพานชำระจิตใจเพื่อไปยังวัดชินฮันซาวัดเก่าแก่กว่าพันปี สร้างในสมัยอาณาจักรชิลล่า   และยังมี
ระฆังอันเก่าแก่  1400 ปี ตั้งอยู่ภายใน  (รวมค่ากระเช้าไฟฟ้าขึ้นจุดชมวิวควนคึมซองเพื่อชมความงามของวนอุทยานแห่ง
ชาติบนที่สูง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

1 ความคิดเห็น: